เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 09.00 น. ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 หรือ ศรชล.ภาค 2 ได้รับแจ้งจาก นายกฤช พิทักษ์คุมพล เจ้าของเรือประมงชื่อ อ.กฤช 11 ว่าเรือประมงซึ่งมีระวางขับน้ำ 49.37 ตันกรอส มีผู้ควบคุมเรือและลูกเรือรวมจำนวน 7 คน ได้อับปางในทะเล บริเวณทางทิศตะวันออกของร่องน้ำสงขลา เป็นระยะทางประมาณ 66 กิโลเมตร

เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2567 ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 2 มีเรือใบท่องเที่ยวประสบเหตุระบบไฟฟ้าขัดข้องไม่สามารถเดินเรือต่อได้ มีผู้โดยสารและลูกเรือรวมจำนวน 3 คน บริเวณระยะ 100 กิโลเมตร จากทุ่นไฟปากร่องน้ำสงขลา เบื้องต้นทราบว่าเรือออกเดินทางจากจังหวัดชลบุรีเพื่อไปยังประเทศสิงคโปร์

ในวันที่ 9 ธันวาคม 2567 พลเรือโท นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ให้การต้อนรับและหารือกับ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และคณะ เพื่อบูรณาการทรัพยากรและแนวทางปฏิบัติด้านการแพทย์ฉุกเฉินทางทะเลในพื้นที่อ่าวไทยตอนล่าง ณ กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 2

ในวันที่ 5 ธันวาคม 2567 น.อ.กาจ บุญวิทยา รอง ผอ.ศรชล.จว.นราธิวาส ลงพื้นที่วัดปิเหล็ง เพื่อมอบถุงยังชีพ (ได้รับความอนุเคราะห์จาก บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วม จำนวน 2 หมู่บ้านได้แก่ หมู่บ้านปิเหล็งเหนือ และหมู่บ้านปิเหล็งตะวันออก จำนวน 200 ชุด ร่วมกับ หน่วยงานราชการ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ณ วัดปิเหล็ง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จว.นราธิวาส โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส/ผอ.ศรชล.จว.นราธิวาส เป็นประธาน